วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2552

การทำน้ำลูกยอ(โนนิ)

การทำน้ำลูกยอ (น้ำโนนิ)
นำลูกยอสุกห่ามๆ (สีเขียวออกเหลืองหรือขาวนวลเล็กน้อย) มาล้างน้ำให้สะอาด แคะเอาเม็ดออก ปั่นแล้วคั้นเอาน้ำผสมกับน้ำผลไม้เข้มข้นชนิดอื่น เช่นน้ำสับปะรดหรือน้ำมะเขือเทศ เพื่อลดกลิ่นของลูกยอและเพิ่มรสชาติดีขึ้นแต่ถ้าต้องการรสหวานเล็กน้อยให้นำน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่นพอประมาณแล้วนำไปผสมกับน้ำลูกยอที่คั้นได้ตามต้องการ
ปัจจุบันนิยมนำลูกยอมาปั่นเป็นน้ำลูกยอคั้นสด เพราะเป็นวิธีที่สะดวกและง่ายที่สุด อีกทั้งสารสำคัญในลูกยอยังมีความคงตัวอยู่เช่นเดียวกับวิธีอื่นๆ แต่ปัญหาจะอยู่ที่รสฝาดและกลิ่นฉุน อาจดื่มได้ลำบาก การนำน้ำลูกยอที่คั้นได้ผสมกับน้ำผลไม้ชนิดอื่นๆ เช่น น้ำองุ่น น้ำบลูเบอรี่ น้ำสับปะรด น้ำฝรั่ง โดยใช้น้ำลูกยอ 9 ส่วน น้ำผลไม้อื่นๆ 1 ส่วนจะช่วยให้กลิ่นและรสชาติของน้ำลูกยอดีขึ้น

คุณค่าของน้ำลูกยอ
หากดื่มน้ำลูกยอคั้นสดเป็นประจำ จะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์และสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นทดรักษาโรคภูมิแพ้ ช่วยย่อยอาหาร ช่วยให้นอนหลับเป็นปกติ มีฤทธิ์ต้านทานโรคมะเร็งและระงับการเติบโตของเซลล์มะเร็งเนื้องอก
ผลข้างเคียงจากการดื่มน้ำลูกยอคั้นสด พบน้อยมาก บางคนอาจเกิดอาการท้องอืด หรือระบายท้องในครั้งแรกซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปได้โดยลดขนาดการรับประทานลง แต่ข้อควรระวังคือน้ำลูกยอนั้นมีธาตุโปแตสเซียมสูงมากเช่นเดียวกับน้ำมะเขือเทศ ผู้ป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรัง จึงไม่ควรรับประทาน เพราะอาจเกิดอันตรายได้

การทำน้ำลูกยอหมัก
ลูกยอดิบแก่จัดโดยเฉพาะที่เมล็ดมีสีดำ
3 กิโลกรัม
น้ำตาลทรายแดง
1 กิโลกรัม
น้ำสะอาด
10 ลิตร
วิธีทำ
· นำน้ำกับน้ำตาลทรายแดงผสมให้เข้ากันในถังพลาสติกที่มีฝาปิด (ขนาด 20 ลิตร)
· ล้างลูกยอให้สะอาดนำไปฝานเป็นชิ้นๆ ใส่ลงในถังแล้วกดให้จมน้ำหนักทุกอย่างรวมกันแล้วปิดฝา นำไปตั้งไว้ในที่ร่ม หมักทิ้งไว้ 3 เดือน (7 วันแรกให้คนบ่อยๆ เพราะลูกยอจะลอยขึ้นมา หากไม่คนจะขึ้นราเพราะไม่มีจุลินทรีย์) หรืออาจหมักใส่ในโหล ใช้ใบตองปิดส่วนบน แล้วใช้ไม้ขัดเอาไว้ปิดฝา (ไม่ควรปิดแน่น เพราะระหว่างการหมักจะเกิดก๊าซจากการทำงานของจุลินทรีย์อาจทำให้ขวดแตกได้) หรือเอาผ้าขาวบางปิดฝาไว้ แล้วเอาเชือกมัดปากโหลให้แน่น
· เมื่อหมักครบ 3 เดือนแล้วมีการนำน้ำลูกยอหมักมาใช้ครั้งแรกก่อน ก็ยังสามารถหมักทำน้ำลูกยอต่อไปได้อีก 2 - 3 ครั้ง โดยในแต่ละครั้งต้องเติมน้ำตาลทรายแดงอีก 1 กิโลกรัม ลงไปในถังหมักเพื่อให้จุลินทรีย์ทำงานได้เร็วขึ้น ใช้เวลาหมักเพียง 1 เดือนก็สามารถนำมาใช้ได้
น้ำลูกยอหมักที่ได้จะมีความเข้มข้นสูง และมีรสเปรี้ยวและกลิ่นหอม เหมือนน้ำส้มสายชู



วิธีรับประทาน
เราสามารถนำน้ำลูกยอหมักที่ได้มาทำเป็นน้ำลูกยอพร้อมดื่มได้ โดยนำน้ำลูกยอ 2 - 3 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำต้มสุก 1 แก้วแล้วเติมน้ำตาลทรายหรือน้ำผึ้งปรุงรสตามใจชอบ

สรรพคุณ
ช่วยเจริญอาหาร ช่วยย่อยอาหาร แก้ท้องอืด ขับลมได้ดี แก้ปวดเมื่อย ช่วยระบบขับถ่าย มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านการเกิดมะเร็งได้ หรืออาจใช้ทาแผลที่เกิดจากเบาหวาน โดยใช้สำลีจุ่มทาแผลที่เป็นแผลจะไม่อักเสบและหายเร็วขึ้น

การผสมน้ำลูกยอหมักสำหรับประทาน
· น้ำหมักลูกยอ 1 ส่วน
· น้ำผึ้ง (ไล่ความชื้นแล้ว) 1 ส่วน
· น้ำต้มสุก 5 ส่วน
นำทั้งส่วนผสมทั้ง 3 อย่างมาผสมกัน อาจเติมเกลือป่นเพิ่มรสชาติก็ได้สามารถเก็บใส่ขวดแช่ตู้เย็นเก็บไว้รับประทานได้นาน 7 วัน (หากทิ้งไว้นานโดยไม่แช่ตู้เย็น น้ำลูกยอที่เก็บไว้จะเปรี้ยวเพราะจุลินทรีย์ทำงานต้องเติมน้ำผึ้งอีกครั้งเพื่อให้มีรสชาติเหมือนเดิม)

2 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอขอบคุณสำหรับบทความที่มีประโยชน์

ฐานิฏฐ์ษิตา เบลล์ กล่าวว่า...

เป็นประโยชน์กับหลาย ๆ ท่านที่ดูแลสุขภาพด้วยน้ำสมุนไพร ..ขอบคุณค่ะ ที่นำสิ่งดีๆ มาฝาก