วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2551

บทอาขยานในอดีต

ปฐม ก.กา
นะโมข้าจะไหว้
วระไตรระตะนา
ใส่ไว้ในเกศา
วระบาทะมุนี
คุณะวะระไตร
ข้าใส่ไว้ในเกษี
เดชะพระมุนี
ขออย่ามีที่โทษา
ข้าขอยอชุลี.
ใส่เกศีไหว้บาทา
พระเจ้าผู้กรุณา
อยู่เกศาอย่ามีภัย
ข้าไหว้พระสะธรรม
ที่ลึกล้ำคัมภีร์ใน
ได้ดูรู้เข้าใจ
ขออย่าได้มีโรคา
ข้าไหว้พระภิกษุ
ที่ได้ลุแก่โสดา
ไหว้พระสกินาคา
อะระหาธิบดี
ข้าไหว้พระบิดา
ไหว้บาทาพระชนนี
ไหว้พระอาจารีย์
ใส่เกศีไหว้บาทา
ข้าไหว้พระครูเจ้า
ครูผู้เฒ่าใส่เกศา
ให้รู้ที่วิชา
ไหว้บาทาที่พระครู
จะใคร่รู้ที่วิชา
ขอเทวามาค้ำชู
ที่ใดข้าไม่รู้..
เล่าว่าดูรู้แลนา
ไชโยขอเดชะ
ชัยชนะแก่มารา
ระบือให้ลือชา
เดชะสามาไชโย
ไชโยขอเดชะ
ัชัยชนะแก่โลโภ
โทโสแลโมโห
อย่าโลเลโจ้เจ้ใจ
กุมาระกุมารี
ตะรุณีย์ที่เยาว์ไว
จะฬ่อพอเข้าใจ
ให้รู้จำคำวาที
ว่าไว้ใน ก กา
ก ข ขา อา อิ อี
ว่าไว้ในเท่านี้
ที่พอได้ใน ก กา
แต่พอให้รู้เล่า
ที่ผู้เขลาเยาวะพา
ได้ดูรู้แลนา
กุมาราตะรุณี
จะใคร่ได้รู้ธำม์
ที่ลึกล้ำจำไว้ดี
ได้แน่แต่เท่านี้
ดีจำเอาเบาใจครู
จะว่าแต่ฬ่อๆ
ว่าแต่พอฬ่อใจดู
ว่าไว้ได้พอรู้
ดูว่าเล่าเอาใจใส่
ระฆังดังเหง่งหง่าง
ระฆังดังเหง่งหง่าง
ฆ้องใหญ่กว้างดังหึ่ง ๆ
กลองหนังดังตึง ๆ
ตีกระดึงดังกริ่ง ๆ
นักเลงร้องเพลงพลาง
ตรงหน้าต่างไขว่ห้างหยิ่ง
เอาหลังนั่งเอนอิง
มือถือฉิ่งตีดัง ดัง
เด็ก เด็ก อย่าใหลหลง
ดูเรื่อง กง กอ กา บ้าง
ดูไปตั้งใจฟัง
เบื้องหน้ายังจะว่ากฎ
แม่ไก่อยู่ในตะกร้า
แม่ไก่อยู่ในตะกร้า
ไข่ๆ มาสี่ห้าใบ
อีแม่กาก็มาไล่
อีแม่ไก่ไล่ตีกา
หมาใหญ่ก็ไล่เห่า
หมูในเล้าแลดูหมา
ปูแสมแลปูนา
และปูม้าปูทะเล
เต่านาและเต่าดำ
อยู่ในน้ำกับจรเข้
ปลาทูอยู่ทะเล
ปลาขึ้เหร่ไม่สู้ดี
แม่นกกาเหว่าเอย
แม่นกกาเหว่าเอย
ไข่ไว้ให้แม่กาฟัก
แม่กาก็หลงรัก
คิดว่าลูกในอุทร
คาบเอาข้าวมาเผื่อ
คาบเอาเหยื่อมาป้อน
ถนอมไว้ในรังนอน
ซ่อนเหยื่อมาให้กิน
ปีกเจ้ายังอ่อนคลอแคล
พ่อแม่จะสอนบิน
ีแม่กาพาไปกิน
ที่ปากน้ำพระคงคา
ตีนเจ้าก็เหยียบสาหร่าย
ปากก็ไซร้หาปลา
กินกุ้งแลกินกั้ง
กินหอยกระพังแมงดา
กินแล้วก็โผมา
จับที่ต้นหว้าโพธิ์ทอง
ยังมีนายพราน
เที่ยวเยี่ยมๆ มองๆ
ยกปืนขึ้นส่อง
้จ้องเอาแม่กาดำ
ตัวหนึ่งนั้นว่าจะต้ม
อีกตัวหนึ่งนั้นว่าจะยำ
กินนางแม่กาดำ
่ำค่ำวันนี้อุแม่นา
สัตว์สวย ป่างาม
เห็นกวางย่างเยื้องชำเลืองเดิน.
เหมือนอย่างนางเชิญ
พระแสงสำอางข้างเคียง

เขาสูงฝูงหงส์ลงเรียง
เริงร้องซ้องเสียง
สำเนียงน่าฟังวังเวง

กลางไพรไก่ขันบรรเลง
.ฟังเสียงเพียงเพลง
ซอเจ้งจำเรียงเวียงวัง

ยูงทองร้องกระโต้งโห่งดัง
.เพียงฆ้องกลองระฆัง
แตรสังข์กังสดารขานเสียง

กะลิงกะลางนางนวลนอนเรียง
พญาลอคลอเคียง
แอ่นเอี้ยงอีโก้งโทงเทง

ค้อนทองเสียงร้องป๋องเป๋ง
เพลินฟังวังเวง
อีเก้งเริงร้องลองเชิง

้ ฝูงละมั่งฝังดินกินเพลิง
ค่างแข็งแรงเริง
ยืนเบิ่งบึ้งหน้าตาโพลง

ป่าสูงยูงยางช้างโขลง
อึงคะนึงผึงโผง
โยงกันเล่นน้ำคล่ำไป

อย่าเกียจคร้านการเรียน
อย่าเกียจคร้านการเรียนเร่งอุตส่าห์
มีวิชาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน
จะตกถิ่นฐานใดคงไม่แคลน
ถึงคับแค้นก็พอยังประทังตน
อันความรู้รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว
แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล
อาจจะชักเชิดชูฟูสกนธ์
ถึงคนจนพงศ์ไพร่คงได้ดี
เกิดเป็นชายชาวสยามตามวิสัย
หนังสือไทยก็ไม่รู้ดูบัดสี
ต้องอับอายขายหน้าทั้งตาปี
ถึงผู้ดีก็คงด้อยถอยตระกูล
จะต่ำเตี้ยเสียชื่อว่าโฉดช้า
จะชักพายศลาภให้สาบสูญ
ทั้งขายหน้าญาติวงศ์พงศ์ประยูร
จะเพิ่มพูนติฉินคำนินทา
หนึ่งหนังสือหรือตำรับฉบับบท
เป็นของล้วนควรจดจำศึกษา
บิดาปู่สู้เสาะสะสมมา
หวังให้บุตรนัดดาได้ร่ำเรียน
จะได้ทราบบาปบุญทั้งคุณโทษ
ปะบุตรโฉดต่ำช้าก็พาเหียร
ไม่สมหวังดังบิดาปู่ตาเพียร
เนิ่นจำเนียรแพลงพลัดกระจัดกระจาย
วิชาเหมืือนสินค้า
วิชาเหมือนสินค้า
อันมีค่าอยู่เมืองไกล
ต้องยากลำบากไป
จึงจะได้สินค้ามา
จงตั้งเอากายเจ้า
เป็นสำเภาอันโสภา
ความเพียรเป็นโยธา
แขนซ้ายขวาเป็นเสาใบ
นิ้วเป็นสายระยาง
สองเท้าต่างสมอใหญ่
ปากเป็นนายงานไป
ัอัชฌาศัยเป็นเสบียง
สติเป็นหางเสือ
ถือท้ายเรือไว้ให้เที่ยง
ถือไว้อย่าให้เอียง
แล่นเลาะเลี่ยงข้ามคงคา
ปัญญาเป็นกล้องแก้ว
ส่องดูแถวแนวหินผา
เจ้าจงเอาหูตา
เป็นล้าต้าฟังดูลม
ขี้เกียจคือปลาร้าย
จะทำลายให้เรือจม
เอาใจเป็นปืนคม
ยิงระดมให้จมไป
จึงจะได้สินค้ามา
คือวิชาอันพิสมัย
จงหมั่นมั่นหมายใจ
อย่าได้คร้านการวิชา
นาฬิกา
จงเทียบเปรียบเอาว่า
เราเป็นนาฬิกาเอง
เข็มบ่งชี้ตรงเผง
พึงเพ่งไว้ให้ทุกวัน
ย่ำรุ่งสะดุ้งตื่น
วางหน้าชื่นลุกขึ้นพลัน
อาบน้ำชำระฟัน
หมดโสมมผมเผ้าหวี
โมงเช้าเฝ้าแต่งตัว
เครื่องเรียนทั่วทุกอย่างมี
เตรียมไปให้ทันที
ที่เพื่อนเราเข้าเรียนกัน
ตอนบ่ายหมายสิบห้า
นาฬิกาเลิกมาพลัน
ถึงเหย้าเราขยัน
หยิบงานทำโดยจำนง
กิจวัตรประจำวันของนักเรียน
เราต้องตื่นขึ้นล้างหน้าเวลาเช้า
พันผมเฝ้าพึงชำระให้สะอาด
เราจงทำหน้าที่กระวีกระวาด
ไม่ต้องคาดคั้นเตือนเรื่องเรือนชาน
แล้วรีบไปให้ทันโรงเรียนเข้า
เลิกแล้วเรามุ่งหน้ากลับมาบ้าน
ช่วยพ่อแม่เก็บงำและทำงาน
ว่างก็อ่านคัดเขียนเล่าเรียนเอย
กิจวัตรประจำวันของเด็กนักเรียน
ทำเทียบเปรียบเอาว่า เราเป็นนาฬิกาเอง
เข็มบ่งชี้ตรงเผง และราบรื่นทุกคืนวัน
ย่ำรุ่งสะดุ้งตื่นโดยแช่มชื่นลุกขึ้นพลัน
อาบน้ำชำระฟัน ขัดโสมมผมเผ้าหวี
โมงเช้าเข้าแต่งตัว เครื่องเรียนทั่วทุกอย่างมี
เตรียมไปให้ทันที ที่พวกเราเข้าเรียนกัน
ตอนบ่ายหมายสิบหน้า นาฬิกามุ่งมาพลัน
ถึงเหย้าเราขยัน หยิบงานทำโดยจำนงค์
ว่าด้วยช่วยแม่พ่อ สิบเจ็ด น พอแล้วลง
อาบน้ำค่ำแล้วจง ฟื้นความรู้ที่ครูสอน
เล่าเรียนเขียนอ่านพอ ยี่สิบ น ก็เข้านอน


ข้อคำนึงถึงประเทศ
สยามงามอุดม ดินดีสม เป็นนาสวน
เพื่อนรักเราชักชวน ร่วมช่วยกัน มุ่งหมั่นทำ
วิชาต้องอาศัย เป็นหลักได้ ใช้ช่วยนำ
ให้รู้สู่ทางจำ ค้นคว้าไว้ ให้มากมาย
ช่วยกันอย่างขันแข็ง ด้วยลำแข้ง ลงแรงกาย
ทำไปไม่เสียดาย แม้อาบเหงื่อ เพื่อแลกงาน
ดั่งนี้มั่งมีแท้ ร่มเย็นแน่ หาไหนปาน
โลกเขาคงเล่าขาน ถิ่นสยาม นี้งามเอย
แนวทางดำเนินชีวิต
ในวัยเด็กเล็กอยู่จงรู้ว่า
เรียนวิชาชั้นต้นจนจบสิ้น
แล้วเลือกเรียนวิชาเชิงหากิน
ให้ถูกถิ่นถูกเวลาถูกท่าที
เมื่อโตไปได้ครองของทั้งสิ้น
ทั่วทุกสิ่งที่มีในถิ่นที่
รู้จักกินรู้จักใช้เก็บให้ดี
เมื่อแก่มีเจ็บไข้ได้ใช้เอย
การฝึกตนให้เป็นคนดี
เราต้องปองฝึกฝนตนให้ตนเป็นคนดี
โดยข้อย่อ ๆ มีที่น่าจำควรคำนึง
หนึ่งนั้นคือหมั่นนึกน้อมรู้สึกระลึกถึง
พ่อแม่แลเราพึงรักลึกซึ้งสุดวันตาย
สองให้ใจโอนอ่อนหวังว่านอนสอนง่ายดาย
ฟังเชื่อผู้เชื้อสายเช่นยายย่าปู่ตาตน
สามจำทำให้ผู้รักเอ็นดูทุกหมู่ชน
ชมเห็นว่าเป็นคนมีกิริยาวาจาดี
สี่นี้มีใจหนักเยือกเย็นนักรู้จักมี
ัยับยั้งรั้งไว้ที่ไม่ใจน้อยคอยแต่ฉุน
ห้าให้มีใจเผื่อแผ่เอื้อเฟื้อและเจือจุน
กอบเกื้อเอื้ออุดหนุนเนื่องน้อมนำเหนี่ยวน้ำใจ
หกหรือคือรอบคอบระมัดรอบระวังไว
ก่อนจะทำอะไรให้คิดดูจนรู้ดี
เจ็ดนี้มีใจหวังในสิ่งดั่งตั้งใจมี
มุ่งไว้ไม่หน่ายหนีทำเต็มที่มิหวาดหวั่น
แปดจะละหลบชั่วห่างจากตัวไม่พัวพัน
สิ่งเล่นเป็นพนันหลีกแม่นมั่นหมั่นเก็บออม
เก้าให้ใส่ใจคือเราต้องซื่อชื่อจึงหอม
คนชอบนิยมยอมวางใจย่อมนอบน้อมเอย



ผู้ใหญ่ หาผ้าใหม่ ให้สะใภ้ ใช้คล้องคอ
ใฝ่ใจ เอาใส่ห่อ มิหลงใหล ใครขอดู
จักใคร่ ลงเรือใบ ดูน้ำใส และปลาปู
สิ่งใด อยู่ในตู้ มิใช่อยู่ ใต้ตั่งเตียง
บ้าใบ้ ถือใยบัว หูตามัว มาใกล้เคียง
เล่าท่อง อย่าละเลี่ยง ยี่สิบม้วน จำจงดี



จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า
ขอข้าวขอแกง
ขอแหวนทองแดง
ี่ ผูกมือน้องข้า
ขอช้างขอม้า
ี่ให้น้องข้าขี่
ูขอเก้าอี้ ให้น้องข้านั่ง
ขอเตียงตั้ง ให้น้องข้านอน
ขอละคร ให้น้องข้าดู
ขอยายชู เลี้ยงน้องข้าเถิด
ขอยายเกิด เลี้ยงตัวข้าเอง

ไม่มีความคิดเห็น: